Landmark

ไม่ว่าจะธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างสรรค์ จุดสังเกตที่เรียกติดปากว่า แลนด์มาร์ก ล้วนมีประโยชน์ใช้สอยจากสถานที่ตั้ง และรูปลักษณ์อันดึงดูดชวนให้จดจำเป็นสำคัญ 

ในอดีตผู้คนใช้แลนด์มาร์กเป็นเครื่องมือและเครื่องหมายปักหมุดการเดินทาง นานวันเข้า จากเพียงจุดบอกตำแหน่ง แลนด์มาร์กที่สามารถยืนหยัดท้าทายกาลเวลา ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนต้องดั้นด้นมาเยี่ยมเยือน

เมื่อคำว่าแลนด์มาร์กยังเท่ากับสถานที่ท่องเที่ยว เมืองใหญ่หลายเมือง และเทศกาลงานแฟร์ต่างๆ ทั่วโลก จึงวางแผนเลือกนักออกแบบหรือสถาปนิกมีชื่อให้มารังสรรค์อาคาร อนุสาวรีย์ หรืองานศิลปะ เพื่อหมายจะสร้างแลนด์มาร์กยิ่งใหญ่ ประชาสัมพันธ์ให้เมืองหรืองานของตนเป็นที่กล่าวขวัญต่อไปในอนาคต




● Cape of Good Hope

แหลมกู๊ดโฮป นอกชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่ไกลจากเคปทาวน์ ในประเทศแอฟริกาใต้ คือหนึ่งในแลนด์มาร์กธรรมชาติที่โด่งดังที่สุดในโลก 

แม้จะไม่ใช่แหลมปลายสุดของแอฟริกาซึ่งเป็นจุดที่มหาสมุทรแอตแลนติกปะทะกับมหาสมุทรอินเดีย (แหลมปลายสุด คือแหลมอะกูลัส) แต่แหลมกู๊ดโฮปกลับมีความสำคัญทางจิตใจต่อนักเดินเรือมาก ตั้งแต่สมัยบาร์โตโลมิว ดิแอซ (Bartolomeu Dias) นักสำรวจชาวโปรตุเกส ที่ได้ค้นพบเส้นทางเดินเรือมายังโลกตะวันออกไกลในปี 1488 เพราะเป็นสัญลักษณ์แรกที่บอกว่า จากนี้ไป แทนที่จะล่องลงใต้ เส้นทางเรือจะเริ่มบ่ายทิศไปทางตะวันออกเข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย
.....

● Sydney Opera House

เมื่อสร้างเสร็จในปี 1973 โรงอุปรากรซิดนีย์ คือสัญลักษณ์แห่งงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในออสเตรเลีย 

ยอร์น อุตซอน (Jorn Utzon) สถาปนิกผู้ออกแบบ ชาวเดนมาร์ก เขาเข้าใจและเล็งเห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งมีฉากหลังเป็นอ่าวซิดนีย์อันงดงาม เขาออกแบบโรงอุปรากรให้โดดเด่นเป็นงานประติมากรรมที่แปลกตา และยังกลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อมทั้งกลางวันและกลางคืน จนเป็นสมบัติของชาติที่ชาวออสเตรเลียรักและภูมิใจ แม้จะมีอายุเพียงไม่ถึงครึ่งศตวรรษ แต่อาคารหลังงามก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี 2007
.....

● Christ the Redeemer

ตั้งแต่ปี 1931 ไครส์ เดอะ รีดีมเมอร์ เป็นประติมากรรมอาร์ต เดโคทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก รูปปั้นพระเยซูสูง 30 เมตร สร้างจากหินสบู่และคอนกรีตเสริมแรง ตั้งอยู่บนเขากอร์โวกาโด สูงเหนือเมืองริโอ เดอ จาเนโร ถึง 2,310 ฟุต 

ซึ่งถูกออกแบบมาให้ทุกคนสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในเมือง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ในบราซิล อันสะท้อนให้เห็นพลังสร้างสรรค์จากศรัทธาอันน่าทึ่ง
.....

● Eiffel Tower

หอไอเฟล เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 31 มีนาคม ปี 1889 ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ในงานมหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพในปีนั้น

แม้คำวิจารณ์ต่อโครงสร้างเหล็กสูง 300 เมตร ที่นับว่าสูงที่สุดในโลกตอนนั้น จะมีทั้งบวกและลบ แต่สัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี การปฏิวัติฝรั่งเศส ก็ได้กลายเป็นแลนมาร์กอันดับหนึ่งของฝรั่งเศส ที่แต่ละปีมีผู้มาเยี่ยมชมจากทั่วโลกเกือบเจ็ดล้านคน ทำให้เป็นอนุสาวรีย์ที่มีการเก็บค่าเข้าชม ที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลก
…..


ที่มา: Creative Thailand Magazine | November 2014

เรื่อง: นันท์นรี พานิชกุล
ภาพ: เบญจ แดงบุบผา